ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง
(Mental
Discipline)
บุญเลี้ยง ทุมทอง
(2556) ได้กล่าวไว้ว่า
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมองเป็นทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อการจัดการเรียนรู้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นทฤษฎีที่ให้ความสำคัญที่ผู้เรียน
ซึ่งสอดคล้องกับแนวความคิดของการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ทฤษฎีนี้เน้นว่า ความรู้เป็นสิ่งที่ถูกสร้างโดยผู้เรียน
ผู้เรียนใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่เป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่
ทิศนา แขมมณี
(2553) ได้รวบรวมไว้ดังนี้ นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind)
สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข็งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย
ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ
ยิ่งยากมากเท่าไรจิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดแยกออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
1. กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า
(Theistic
Mental Dicipline) นักคิดที่สำคัญของกลุ่มนี้คือ เซนต์ออกุสติน (St.
Augustine) จอห์น คาลวิน (John Calvin) และคริสเตียน
โวล์ฟ (Christian Wolff) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
ดังนี้
1)
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความชั่ว และการกระทำใดๆของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายในตัวมนุษย์เอง
(bad-active)
2)
มนุษย์พร้อมที่จะทำความชั่วหากไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม
3)
สมองของมนุษย์แบ่งออกเป็นส่วนๆ
(faculties)
ซึ่งหากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้เกิดความเข้มแข็ง
สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้
4)
การฝึกสมองหรือฝึกระเบียบวินัยของจิต
เป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด
5)
การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด ต้องใช้วิชาที่ยาก เช่น คณิตศาสตร์ ปรัชญา
ภาษาลาติน ภาษากรีก และคัมภีร์ไบเบิล เป็นต้น
6)
ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุผลของมนุษย์
(Humanistic
Mental Discipline) นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ พลาโต (Plato)
และอริสโตเติล (Aristotle) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้ดังนี้
7)
พัฒนาการในเรื่องต่าง
ๆ เป็นความสามารถของมนุษย์ มิใช่พระเจ้าบันดาลให้เกิด
8)
มนุษย์เกิดมามีลักษณะไม่ดีไม่เลวและการกระทำของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายใน
(neutral-active)
9)
มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผลพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
มนุษย์มีอิสระที่จะเลือกทำตามความเข้าใจและเหตุผลของตน
หากได้รับการฝึกฝนอบรมก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพที่ติดตัวมา
10)
มนุษย์มีความรู้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
แต่ถ้าขาดการกระตุ้นความรู้จะไม่แสดงออกมา
สยุมพร ศรีมุงคุณ
(2553) ได้กล่าวไว้ว่า จิต สมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก
ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ
ยิ่งยากมากเท่าไร จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมาวิธีการสอนแบบโสเครติส (Socratic
Method) และวิธีการสอนแบบบรรยาย (Didactic Method) เป็นวิธีการสอนตามทฤษฏีนี้ที่ใช้คำถามเพื่อดึงความรู้ในตัวผู้เรียนออกมาให้กระจ่างชัดและช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน
ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี
สรุป
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นฝึกจิตหรือสมอง (Mental
Discipline) เป็นทฤษฎีที่เกี่ยวกับการพัฒนาจิต สมอง หรือสติปัญญา
ให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นด้วยการฝึกฝน โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ
ซึ่งจะทำให้จิตหรือสมองได้รับการฝึกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ทฤษฎีนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมา
ซึ่งทฤษฎีนี้จะแบ่งแนวคิดออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า และกลุ่มที่เชื่อในความมีเหตุผลของมนุษย์
ที่มา
ทิศนา แขมมณี.
(2553). ศาสตร์การสอน
องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์.
บุญเลี้ยง ทุมทอง.
(2556). ทฤษฎีและการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้. มหาสารคาม: โรงพิมพ์สหบัณฑิต.
สยุมพร ศรีมุงคุณ.
(2553). https://www.gotoknow.org/posts/341272. [ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น